User's Manual
Table Of Contents
- 1. ทำความรู้จักเราเตอร์โมเด็ม ADSL ของคุณ
- 1.1 Welcome!
- 1.2 Package contents
- 1.3 เราเตอร์โมเด็ม ADSL ของคุณ
- 1.4 การจัดวางตำแหน่งเราเตอร์โมเด็ม ADSL ของคุณ
- 1.5 Setup Requirements
- 1.6 การตั้งค่าเราเตอร์โมเด็ม ADSL
- 2 Getting started
- 2.1 การตั้งค่าตามค่าเริ่มต้น
- 2.2 การกำหนดค่า IP
- 2.3 Logging into the Web GUI
- 2.4 Quick Internet Setup (QIS) Wizard with Auto-detection
- 2.5 Connecting to your wireless network
- 3 Configuring the General settings
- การกำหนดค่าการตั้งค่าระบบ
- 5 การลงชื่อออกและรีบูต
- Appendix A - Firewall (ภาคผนวก A - ไฟร์วอลล์)
- Appendix B - Pin Assignments (ภาคผนวก B - การกำหนดรหัส Pin)
- Appendix C – Specifications (ภาคผนวก C - ข้อมูลจำเพาะ)
- Appendix D - SSH Client (ภาคผนวก D - SSH ไคลเอ็นต์)
- Appendix E - Connection Setup (ภาคผนวก E - การตั้งค่าการเชื่อมต่อ)
- Appendix F - WPS OPERATION (ภาคผนวก F - การใช้งาน WPS)
- Appendix G
100
WEP Encryption (การเข้ารหัส WEP)
ตัวเลือกนี้จะระบุว่าข้อมูลที่ส่งผ่านเครือข่ายมีการเข้ารหัสหรือไม่ คีย์เครือข่ายที่เหมือน
กันจะถูกนำามาใช้เพื่อการเข้ารหัสข้อมูล และการยืนยันตัวบุคคลของเครือข่าย คีย์เครือ
ข่ายสี่แบบสามารถที่จะกำาหนดขึ้นได้แม้ว่าจะสามารถใช้งานได้เพียงคีย์เดียวในหนึ่ง
ครั้ง ใช้กล่องรายการคีย์เครือข่ายปัจจุบันเพื่อเลือกคีย์เครือข่ายที่เหมาะสม
ตัวเลือกการรักษาความปลอดภัยประกอบด้วยบริการการยืนยันตัวบุคคลและการเข้า
รหัสตามขั้นตอนวิธี Wired Equivalent Privacy (WEP) WEP เป็นชุดบริการการรักษา
ความปลอดภัยที่ใช้เพื่อป้องกันเครือข่าย 802.11 จากการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต
เช่น การลอบดักฟัง ในกรณีนี้เป็นการดักจับการรับส่งข้อมูลของเครือข่ายไร้สาย
เมื่อเปิดใช้งานการเข้ารหัสข้อมูล คีย์การเข้ารหัสลับที่ใช้ร่วมกันจะถูกสร้างขึ้น และใช้
งานโดยสถานีต้นทางและสถานีปลายทางเพื่อปรับเปลี่ยนขนาดบิตของเฟรม ดังนั้นจึง
สามารถหลีกเลี่ยงการเปิดเผยต่อผู้ที่ดักฟัง
ภายใต้การยืนยันตัวบุคคลของคีย์ที่ใช้ร่วมกัน จะถือว่าสถานีไร้สายแต่ละแห่งได้รับคีย์
ความลับที่ใช้ร่วมกันแล้วผ่านช่องทางที่ปลอดภัย ซึ่งเป็นอิสระจากช่องทางการสื่อสาร
ของเครือข่ายไร้สาย 802.11
ความรัดกุมของการเข้ารหัส
กล่องรายการแบบหล่นลงจะแสดงขึ้นมาเมื่อการเข้ารหัส WEP ถูกเปิดใช้งาน ความ
รัดกุมของคีย์เป็นสัดส่วนกับจำานวนบิตไบนารีที่ใช้ประกอบคีย์ ซึ่งหมายความว่าคีย์ที่
จำานวนบิตมากกว่ามีระดับการรักษาความปลอดภัยที่ดีกว่า และเจาะข้อมูลได้ยากมาก
ขึ้น ความรัดกุมของการเข้ารหัสสามารถตั้งค่าเป็น 64 บิต หรือ 128 บิต คีย์ 64 บิต
เทียบเท่ากับอักขระ ASCII 5 ตัว หรือเลขฐานสิบหก 10 หลัก คีย์ 128 บิตประกอบด้วย
อักขระ ASCII 13 ตัว หรือเลขฐานสิบหก 26 หลัก แต่ละคีย์ประกอบด้วยส่วนหัวขนาด
24 บิต (เวกเตอร์เริ่มต้น) ซึ่งจะช่วยในการถอดรหัสแบบขนานของกระแสข้อมูลหลาย
รายการที่เข้ารหัสไว้